"รวมญาติ" สมบัติพระราชวังต้องห้าม | โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 18 กุมภาพันธ์ 2552 16:55 น. | |
|
จีน และไต้หวันจับมือกันแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 60 ปี โดยจะเปิดนิทรรศการร่วมแสดงสมบัติจากยุคจักรพรรดิหย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง ที่ไทเป เดือนตุลาคมนี้ ภาพ:ภาพเขียน หย่งเจิ้ง ครองราชย์ ปี ค.ศ. 1722-1735 ทรงมีชื่อเสียงด้านการต่อสู้คอรัปชั่น ภาพดังกล่าวถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ กรุงปักกิ่ง เอ เจนซี--ณ ช่วงที่เมืองจีนกำลังระส่ำ ไฟสงครามลูกใหญ่รุกเข้ามาในต้นปี 1933 (2476) ก่อนที่กองทัพระจักรพรรดิแดนอาทิตย์อุทัยยาตราทัพเข้ามา พรรคกั๋วหมินตั่ง หรือที่ชาวไทยคุ้นเคยในชื่อ ก๊กมินตั๋ง ก็ได้ขนย้ายสมบัติบรรพบุรุษที่ตกทอดสั่งสมนับนับพันปี จากพระราชวังต้องห้ามนครปักกิ่ง ที่ถูกบรรจุใส่ลังไม้มากกว่า 13,000 ลัง พวกเขาได้แยกลังสมบัติวัตถุโบราณและแบ่งกันขนหนีไปตามที่ต่างๆทั่ว ประเทศจีน ให้พ้นเอื้อมมือผู้รุกรานที่อาจเข้ามาปล้นชิงไป สมบัติจากพระราชวังจีนเหล่านี้ ซึ่งนับเป็นศิลปะล้ำค่าที่สุดแห่งเอเชีย ได้ฝ่าไฟสงครามจากการทิ้งลูกระเบิดและการโจมตีบนพื้นดิน นานถึง 12 ปี กระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองยุติในปี ค.ศ. 1945 สมบัติพระราชวังได้กลับมารวมกันหลังสงครามในนครหนันจิง หรือนานกิง เมืองหลวงโบราณของจีน ขณะนั้น สงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังดำเนินต่อไป เมื่อมีสัญญาณชัดว่ากองทัพปลดแอกประชาชนของผู้นำคอมมิวนิสต์ จะเป็นผู้พิชิตชัยชนะ ผู้นำก๊กมินตั่งก็ได้คัดเลือกโบราณวัตถุชิ้นที่ล้ำค่าที่สุด นับได้มากกว่า 3,000 ลัง รวมกว่า 655,000 ชิ้น ขนส่งไปยังเกาะไต้หวันระหว่างปี 1948 และต้นปี 1949(2492) ก่อนสิ้นสงครามกลางเมือง โบราณวัตถุที่ผู้นำก๊กมินตั๋งเลือกไปนั้น ล้วนเป็นสุดยอดงานศิลปะ อาทิเครื่องเคลือบและภาพเขียนที่หายากที่สุดในโลก รวมทั้งงานศิลปะในยุคราชวงศ์ชิง จนอาจเรียกได้ว่าโบราณวัตถุของพระราชวังต้องห้ามชิ้นเด็ดๆนั้น ตกอยู่ในมือไต้หวันเป็นส่วนใหญ่ ถึงขนาดมีคำกล่าวในชาวจีนบางกลุ่มว่า "ไต้หวันมีโบราณวัตถุแต่ไม่มีวัง ส่วนปักกิ่งมีวังแต่ไม่มีโบราณวัตถุ" ไฟล์ ภาพประวัติศาสตร์ ผู้นำก๊กมินตั๋งขนย้ายโบราณวัตถุจากพระราชวังต้องห้ามหนีภัยสงครามไปตามที่ ต่างๆทั่วประเทศจีนจีนอย่างยากลำบากตั้งแต่ปีค.ศ. 1933 จนสงครามโลกครั้งที่สองสงบในปี 1945 ผู้นำคอมมิวนิสต์ได้ขนโบราณวัตถุที่ก๊กมินตั่งเหลือทิ้งไว้ไปไว้ที่ พระราชวังต้องห้ามกรุงปักกิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุ 2,221 ลัง ที่ถูกทิ้งไว้ที่พระราชวังเทียนเฉาในนครหนันจิงหลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่น หนันจิงและปักกิ่งได้ถกเถียงกันถึงความเป็นเจ้าของสมบัติเหล่านี้ นับเป็นเวลาถึง 60 ปี ที่สมบัติพระราชวังจีน ได้แยกกันอยู่คนละดินแดน โดยส่วนหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง และอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติในนครไทเป ทั้งนี้ ผู้นำก๊กมินตั่งได้ตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติขึ้นที่ไทเป โดยใช้ชื่อเดียวกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง คือ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (กู้กงโป๋อู้ย่วน 故宫博物院 –National Palace Museum) "รวมญาติ" สมบัติพระราชวังจีน กระทั่ง สัมพันธภาพระหว่างสองดินแดนจีนชื่นมื่นถึงที่สุดหลังจากที่ผู้นำพรรคก๊กมิ นตั่ง หม่า อิงจิ่ว ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ก็มีการเจรจาแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่สำคัญคือ การจัดแสดงนิทรรศการใหญ่รำลึกจักรพรรดิหย่งเจิ้ง ร่วมระหว่างสองดินแดน และในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นาง โจว กงซิน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์พระราชวังหลวงแห่งไทเป ได้นำคณะเดินทางไปประชุมที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง เพื่อเจรจาขอยืมวัตถุโบราณของพระราชวังต้องห้ามไปจัดแสดงนิทรรศการรำลึก จักรพรรดิหย่งเจิ้ง ที่ไทเปในเดือนตุลาคม โดยจะเปิดให้ผู้ชม 3 เดือน สำหรับผลการเจรจา สื่อจีน ไชน่า เดลี่เมื่อวันจันทร์(16 ก.พ.)เผยว่าพิพิธภัณฑ์ พระราชวังแห่งชาติ กรุงปักกิ่ง ตกลงให้ไทเป ยืมโบราณวัตถุราชวงศ์ชิง 29 ชิ้น โดยผู้แทนจากพิพิธภัณฑ์ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการยืมโบราณวัตถุครั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์(15 ก.พ.) นอกจากนี้ ฝ่ายจีนยังแสดงความหวังที่จะยืมโบราณวัตถุจากไทเปมาจัดแสดงนิทรรศการที่แผ่น ดินใหญ่ด้วย ไชน่าเดลี่อ้างสื่อไต้หวันว่า ด้านไต้หวันซึ่งครองวัตถุโบราณจากพระราชวังต้องห้ามชิ้นล้ำค่าไว้มากมายนั้น มีท่าทีบ่ายเบี่ยงที่จะให้ปักกิ่งยืมสมบัติเหล่านี้ เนื่องจากเกรงว่าจีนจะไม่ยอมคืนวัตถุโบราณที่ยืมไป อย่างไรก็ตาม ทั้งสองจะเจรจาความเป็นไปได้ในการจัดนิทรรศการร่วมแสดงโบราณวัตถุของ พระราชวังต้องห้ามระหว่างงานเซี่ยงไฮ้ เอ็กซ์โป 2010 สำหรับปักกิ่งการแลกเปลี่ยนนี้ นอกจากสะท้อนความร่วมมือในด้านศิลปะ ยังต้องการปรับปรุงภาพลักษณ์ของจีนแก่ชาวไต้หวัน เพื่อบั่นทอนกระแสต่อต้านการรวมชาติ สำหรับงานศิลปะที่ไทเปต้องการยืมไปจัดแสดงในนิทรรศการฯนั้น ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดและตราประทับของจักรพรรดิหย่งเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิง ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1722-1735 (พ.ศ.2266-2278) ผู้เชี่ยวชาญศิลปะจีน นาย Marc F. Wilson ผู้อำนวยการ Nelson-Atkins Museum ในเคนซัสซิตี้ กล่าวว่า การยืมงานศิปละของทางไทเปนั้น "มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์มากกว่า เพราะวัตถุโบราณที่ยืมไปนั้น ไม่ใช่งานที่ยิ่งใหญ่" พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติไทเป ออกแบบเหมือนห้องพระโรงหลวงของพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง สำหรับการขอยืมงานศิลปะพระราชวังจากไทเปมาจัดแสดงในจีนนั้น นาง โจวกล่าวว่า "ขณะนี้ ยังไม่มีแผน" ซึ่งการกระทำเช่นนี้ จะยิ่งโหมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในไต้หวันมาก เนื่องจากทางปักกิ่งนั้น อ้างตลอดมาว่า โบราณวัตถุพระราชวังทั้งหมดนั้นเป็นของปักกิ่ง สำหรับทางไทเปนั้น ไม่เคยโต้แย้งใดๆต่อการถือครองสมบัติพระราชวังของปักกิ่ง นอกจากนี้ นางโจวชี้ว่าพิพิพธภัณฑ์ทั้งสองแห่งจะได้รับประโยชน์ในด้านความชำนัญในการ อนุรักษ์สมบัติบรรพบุรุษ ซึ่งไทเปมีจุดเด่นด้านเทคนิกใหม่ล่าสุดสำหรับการจัดแสดงงานศิลปะเก่าแก่ ขณะที่ปักกิ่งนั้น ชำนาญการเก็บรักษานาฬิกา "ทางเราก็มีนาฬิกา แต่เป็นจำนวนน้อย และก็ไม่กล้าที่จะแตะต้อง เพราะไม่มีทักษะด้านนี้" อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ ก็ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในไต้หวัน โดยพรรคฝ่ายค้าน ประชาธิปไตยก้าวหน้า –ดีพีพี ชี้ ว่าทางแผ่นดินใหญ่นั้น ไม่แม้แต่ยอมรับชื่อ "พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ" (National Palace Museum) เนื่องคำว่า "แห่งชาติ" อาจตีความเป็นการยอมรับอธิปไตยของรัฐบาลไต้หวัน สำหรับทางสำนักงานซินหัวได้อ้างถึงชื่อนี้ โดยใส่เครื่องหมายคำพูดกำกับไว้ เพื่อชี้ว่าเป็นชื่อเฉพาะ สำหรับนางโจวนั้น เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลปะที่มีชื่อเสียง จบปริญญาเอกจาก มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า เธอมุ่งไปที่ความร่วมมือด้านศิลปะเท่านั้น และหลีกเลี่ยงเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตาม แก่นเนื้อหาของนิทรรศการที่จะจัดในเดือนตุลาคม คือ ศิลปะโบราณวัตถุราชวงศ์ชิงแห่งรัชสมัยหย่งเจิ้งนั้น ก็มีกลิ่นอายทางการเมืองแอบแฝงอยู่ จักรพรรดิหย่งเจิ้งทรงมีชื่อเลื่องลือด้านการต่อสู้คอรัปชั่น ขณะที่ เฉิน สุ่ยเปี่ยน อดีตประธานาธิบดีจากพรรคดีพีพี ที่ครองอำนาจประมุขดินแดน 8 ปี(2000-2008) กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในข้อกล่าวหาคอรัปชั่น "นั่น เป็นเรื่องบังเอิญ เรามุ่งไปที่เรื่องศิลปะเท่านั้น" นางโจว ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจในการเลือกธีม นิทรรศการ.
| |
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
kb
http://camp02.blogspot.com/ camp02
http://kb1951.blogspot.com/ park
http://kbparks.blogspot.com/ kbpark
http://word1951.blogspot.com/ wordpress
http://www.baanjomyut.com/library/lotushttp://www.educationatclick.comhttp://www.pwdom.com http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009http://www.twitter.com/kajornhttp://www.twitter.com/BKKFlashCamp http://camp02.readyhomepage.comhttp://www.twitter.com/sun1951http://www.twitter.com/joomlacorner http://sun1951.vaivaitraining.comhttp://sun1951.wordpress.comhttp://www.educationatclick.com/th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น