I can’t do everything for everybody, but I can do something for somebody. And what I can do, I must do. Dr.Bob Pierce, World Vision Name: Greenpeace SEAsia Thailand City: Bangkok Hometown: Bangkok, Thailand Country: Thailand Companies: Greenpeace Southeast Asia (THAIL... Interests and Hobbies: Saving the environment for all lives on earth. Website: http://www.greenpeace.or.th

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

ก้าวย่างใหม่ของล่ามภาษามือในประเทศไทย นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตคนหูหนวก









วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16:03:28 น.  มติชนออนไลน์

ก้าวย่างใหม่ของล่ามภาษามือในประเทศไทย นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตคนหูหนวก

ความพิการเป็นเพียงลักษณะทางกายไม่ใช่ตัวบ่งชี้ศักยภาพของคน ไม่ว่าจะเป็นการบกพร่องการเคลื่อนไหวจิตใจ อารมณ์ สติปัญญาและการเรียนรู้ ดังนั้น คนหูหนวกอยู่ที่ไหนก็ต้องมีล่ามภาษามืออยู่ที่นั่น เพื่อเสริมคุณภาพชีวิตให้ดำเนินไปได้อย่างปกติสุข

เพื่อยกระดับคนพิการทางการได้ยิน ซึ่งว่าเป็นความพิการอันดับ 2 ของคนไทย ให้ใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ


กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานสร้างเสริมสุขภาพคนพิการในสังคมไทย (สสพ.) และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) จึงร่วมกันจัดงานเสนวนา “ก้าวย่างใหม่ของล่ามภาษามือในประเทศไทย” เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตบุคคลากรที่มีความสามารถทางการสื่อสารล่ามมือ เพื่อตอบสนองความต้องการผู้พิการทางการได้ยินให้เข้าถึงการใช้ประโยชน์จาก ล่ามมือในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น อันจะยังผลให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่บัญญัติไว้ว่า ผู้พิการทางการได้ยินมีสิทธิ์ได้รับล่ามภาษามืออย่างเพียงพอ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต

 
“ขณะนี้มีผู้มาจดแจ้งเป็นล่ามมือประมาณ 300 คน ขณะที่ผู้พิการทางการได้ยินทั่วประเทศจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อปี 2550 มีประมาณ 700,000 คน ซึ่งหมายถึง เพียงแต่กลับมีผู้พิการทางการได้ยินที่มาจดทะเบียนคนพิการเพื่อขอรับสิทธิใน การเข้าถึงบริการล่ามมือกับพม.เพียง 140,000 คนเท่านั้น ทั้งที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าว

         
นายอิสสระ เสริมอีกว่า พม.ตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องจัดให้บริการล่ามภาษามือ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทางการได้ยิน จึงได้เร่งผลักดันให้เกิดระบบบริการล่ามภาษามือที่มีประสิทธิภาพขึ้น โดยมีค่าตอบแทนให้ผู้ปฏิบัติงาน ที่จะเป็นสื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ของคนหูหนวก ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน และได้รับบริการทางสังคมต่างๆ รวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมได้อย่าง เต็มศักยภาพเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป


“เราได้ร่วมดำเนินการกับเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรของคนพิการ ตลอดจนสมาคมล่ามภาษามือแห่งประเทศไทย ซึ่งเตรียมพร้อมขยายการให้บริการให้สามารถครอบคลุมทั่วถึงทุกจังหวัด โดยค่าตอบแทนให้ผู้ปฏิบัติงาน คิดเป็นรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 300 – 500 บาท แต่หากเป็นการบรรยายในการสัมมนา หรือเป็นวิทยากร มีค่าตอบแทนชั่วโมงละ 600 บาท” รมว.พม.กล่าว และทิ้งท้ายว่า


“ความพิการเป็นเพียงลักษณะทางกายไม่ใช่ตัวบ่งชี้ศักยภาพของคน ไม่ว่าจะเป็นการบกพร่องทางการเคลื่อนไหวจิตใจ อารมณ์ สติปัญญาและการเรียนรู้…ดังนั้นคนหูหนวกอยู่ที่ไหนก็ต้องมีล่ามภาษามืออยู่ ที่นั่น เพื่อเสริมคุณภาพชีวิตให้ดำเนินไปได้อย่างปกติสุข”


ด้านนางกิ่งแก้ว อินหว่าง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาล่ามภาษามือ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่ง ชาติ ว่าด้วยล่ามภาษามือ พ.ศ.2552


“เมื่อพม.เปิดให้ล่ามภาษามือมายื่นจดทะเบียนแล้ว หากคนหูหนวกต้องการขอรับบริการล่ามภาษามือ ก็มายื่นคำขอรับบริการได้ใน 4 กรณี ได้แก่

1. ใช้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข 

2.สมัครงานหรือติดต่อประสานงานด้านการประกอบอาชีพ

3.ร้องทุกข์กล่าวโทษ หรือเป็นพยานในชั้นพนักงานสอบสวน และ

4.เข้าร่วมประชุมสัมมนาและฝึกอบรม โดยในเขตกรุงเทพฯ ให้ยื่นคำขอต่อกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ส่วนต่างจังหวัดให้ยื่นติดต่อขอใช้บริการได้ที่สำนักงานการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ (พมจ.)” เลขาธิการ พก.กล่าว


ส่วนดร.มลิวัลย์ ธรรมแสง นายกสมาคมล่ามภาษามือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้คนหูหนวกทั่วโลกจะต้องชื่นชมที่ทางมูลนิธิให้โอกาสกับคนหูหนวก ซึ่งล่ามภาษามือ คือ ผู้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้คนหูหนวกเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และติดต่อสื่อสารกับผู้ที่มีการได้ยิน หรือผู้ที่สื่อสารด้วยภาษาที่แตกต่างกัน


“บทบาทสมาคมล่ามภาษามือ คือ

1.เป็นองค์กรวิชาชีพหนึ่งที่อาจแปลกใหม่ แต่ในสากลมีเกิดขึ้น ซึ่งไทยมีองค์กรที่เป็นตัวแทนแล้วด้วย

2.มุ่งหวังส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนหูหนวก และส่งเสริมให้อาชีพล่ามภาษามือเป็นเสมือนหนึ่งงานเชิงวิชาการ และทำให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญของล่ามมือที่ต้องใช้ความอดทน และความชำนาญสูง แต่เมื่อเรียนจบแล้วกลับไม่มีงานที่มั่นคง สมาคมฯ จึงได้เสนอให้ พม.เร่งบรรจุล่ามภาษามือเข้าเป็นข้าราชการ เพราะเป็นหน่วยงานที่มีภาระหน้าที่ดูแลคนพิการโดยตรง” ดร.มลิวัลย์ กล่าว


ขณะที่ นายยงยุทธ บริสุทธิ์ นายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณด้วยภาษามือและบอกว่า คนหูหนวกคาดหวังกับการมีล่ามภาษามือมาก นอกจากนี้การมีล่ามมือที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสนับสนุนผู้พิการทางการได้ยิน 2 ทางได้คือ

1.ได้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อถ่ายทอดสิ่งที่คนหูหนวกต้องการสื่อไปยัง บุคคลอื่นให้ได้รู้ในสิ่งที่ต้องการจะบอกและได้แปลจากสิ่งที่คนปกติอยากจะ บอกให้กับคนหูหนวกรับทราบด้วย และ

2.คิดว่าล่ามภาษามือจะมีความรู้และความเข้าใจ ที่สำคัญล่ามต้องมีความเป็นวิชาชีพ รักษาความลับในบางอย่างที่คนหูหนวกไม่ต้องการเปิดเผยด้วย

                                  http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268903041&grpid=&catid=04

--
โปรดอ่านบล็อก
http://www.pridiinstitute.com
http://www.nakkhaothai.com
http://apps.facebook.com/blognetworks/index.php
http://www.roundfinger.com/
http://twitter.com/sweetblog
http://twitter.com/oknewsblog
http://twitter.com/okblogger
http://twitter.com/sat191
http://www.pacc.go.th/
http://twitter.com/okblogchan
http://twitter.com/sun1951
http://twitter.com/smeblogger
http://twitter.com/seminarblog
http://twitter.com/sunnewsblog
http://twitter.com/okworldblog
http://twitter.com/ktblogger
http://twitter.com/sundayblog
http://twitter.com/mondayblog
http://twitter.com/tuesdayblog
http://twitter.com/wednesdayblog
http://twitter.com/thursdayblog
http://twitter.com/fridayblog
http://twitter.com/saturdayblog
http://www.deepsouthwatch.org/node/687
http://www.tu.ac.th/org/ofrector/tu_council/record/nopporn.htm
http://www.visalo.org/

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

SWOT ตามราศี แม่นๆ




วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:23:50 น.  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

: SWOT ตามราศี แม่นๆ

ราศีมังกร ( 22 ธันวาคม - 19 มกราคม) จุดแข็ง
1. อ่านคนเก่ง มีลางสังหรณ์แม่นยำ
2. วางตัวดี ยากที่ใครอ่านออก
3. มีอารมณ์ขัน มีวาทศิลป์
4. มีความนอบน้อมถ่อมเคารพผู้อาวุโส
5. มีความซื่อตรงและยุติธรรม
6. รอบคอบ ละเอียดอ่อน
7. ใจบุญสุนทาน มีความรอบรู้ รักพ่อแม่พี่น้องมาก
8. เข้มแข็งแกร่งกล้า แม้จะเป็นคนอ่อนไหวง่าย จุดอ่อน
1. เจ็บปวดง่าย ยากจะลืมเลือนหรือให้อภัยคนที่ทำร้ายตน
2. ชอบผูกมิตรกับคนแต่ไม่ชอบคบใครจริงจัง
3. ชอบแสดงความสดใสร่าเริง ทั้งที่ในใจรู้สึกโดดเดี่ยว
4. ทนไม่ได้กับการวิพากษ์วิจารณ์หรือการดูถูก
5. ยึดม! ั่นในหน้าที่ จนไม่มีเวลาใช้ชีวิตแบบที่ปารถนา
6. ใช้จ่ายเงินเก่ง
7. เชื่อว่าตนเองถูกเสมอ  
ราศีกุมภ์ ( 20 มกราคม - 18 กุมภาพันธ์)

จุดแข็ง
1. มีความเป็นเพื่อนให้ทุกคนอย่างไม่เลือก
2. ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน มีจุดยืนที่มั่นคง
3. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่เคยดับมอด
4. เด็ดเดี่ยว ไม่ท้อแท้
5. กล้าได้กล้าเสีย แก้ปัญหาเก่ง ไม่ตื่นตกใจง่าย
6. รู้จักกาลเทศะ
7. สร้างจุดสนใจได้ดีเสมอ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน
8. สุขุมเยือกเย็น ไม่เคยทำอะไรสะเพร่า  
จุดอ่อน
1. ต่อต้านกฎเกณฑ์อย่างจริงจัง จนบางครั้งก้าวร้าว
2. ไม่ลงให้ใครง่ายๆ
3. ไม่แสดงความคิดเห็นของตน แต่เก็บเกี่ยวความคิดของผู้อื่น
4. ชอบเสี่ยง ทั้งที่ไม่มีความมั่นใจเลย
5. ไม่ทนกับคนที่ตนคิดว่าไร้สาระ
6. ไม่ชอบแสดงออกทางอารมณ์ แม้แต่จะทำสิ่งที่ดีๆให้กับคนที่ตนรัก
7. คาดหวังสูงกับความเป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง
8. ชอบคิด ชอบวางแผน แต่ไม่ชอบลงมือทำ  
ราศีมีน ( 19 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม)

จุดแข็ง
1. สามารถดึงเอาความเพ้อฝันมาใช้สร้างสรรค์ได้
2. ปรับตัวได้ดี รู้จักรอมชอม แม้จะฝืนใจตนเองบ้าง
3. วางตัวดี รู้จักพูดจา เป็นผู้ฟังที่ดี
4. ยินดีให้ความร่วมมือกับผู้อื่นแม้จะไม่เห็นชอบด้วยก็ตาม
5. ไม่เรียกร้องความโดดเด่น ไม่ยึดติดว่าตนต้องเป็นผู้นำ
6. มีความอดทน มีศักยภาพที่ไขว้คว้าความสำเร็จ
7. ฉลาดและรู้จักใช้โอกาส  
จุดอ่อน

1. อารมณ์เปราะบาง
2. สับสนและเครียดได้สูงเพียงเพราะอารมณ์อ่อนไหวของตน
3. ไม่กล้าทำในสิ่งที่ลึกๆปรารถนา
4. ชอบหลอกตัวเองไม่ยอมรับความจริง
5. พอใจที่จะอยู่ในโลกแห่งจินตนาการมากกว่าโลกแห่งความจริง
6. ชอบหนีปัญหาของตนเอง ทั้งที่สามารถให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาของผู้อื่นได้
7. ไม่ชอบงานหนักหรือภาวะที่บังคับให้ต้องรับผิดชอบสูง
8. ขาดมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับชีวิต  
 ราศีเมษ ( 21 มีนาคม - 19 เมษายน)
จุดแข็ง
1. มีกำลังใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยง่ายๆ
2. มีน้ำใจไมตรีต่อคนรอบข้าง
3. รู้จักสร้างความสดชื่นรื่นรมย์อยู่เสมอ
4. เป็นผู้นำที่ดี มีความยุติธรรมและซื่อตรงสูง
5. มีความคิดริเริ่มรักอิสระ
6. วางจุดหมายของตัวเองไว้ทุกระยะ
7. สนใจใฝ่รู้ มุ่งไปที่ความสำเร็จมากกว่าเงิน
8. กล้าสู้ปัญหา ยอมรับความกดดันได้ดี   จุดอ่อน
1. เชื่อแต่ความคิดและมุมมองของตนเอง
2. หลงตนเองต้องการเป็นหนึ่งเสมอ
3. อยากควบคุมความคิดคนอื่น เผด็จการพอตัว
4. บางครั้งก้าวร้าวและไม่ใคร่ตรองให้ลึกซึ้ง
5. อ่านคนไม่เก่ง แต่ชอบแข่งขันและชอบเอาชนะ
6. กลังคนไม่ยอมรับ
7. เก็บเงินไม่เก่ง
8. ไม่ค่อยอดทนไม่ชอบอยู่กับความซ้ำซากเป็นเวลานาน  
ราศีพฤษภ ( 20 เมษายน - 20 พฤษภาคม)
จุดแข็ง

1. มีความบากบั่นสูง ยากที่จะยอมแพ้หรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตนเอง
2. เป็นคนมีจิตใจดี ให้เกียรติให้ความสำคัญแก่คนอื่นเสมอ
3. เป็นคนจริงใจ รักมั่นคง รักครอบครัวรักเพื่อน อย่างแท้จริง
4. สามารถเก็บความรู้สึกเกรี้ยวกราดไว้ได้ ยากที่จะแสดงออกว่าไม่พอใจใคร
5. สามาร! ถจัดการชีวิตให้มีระเบียบวินัยอย่างพอเหมาะ
6. เป็นคนมีเหตุผล พูดจริง ทำจริง และไม่ไข่คว้าในสิ่งที่เกินตัว
7. มักไตร่ตรองให้รอบครอบอยู่เสมอ
8. เป็นคนสุภาพนอบน้อม ไม่ใจร้อนวู่วาม  
จุดอ่อน

1. คิดและทำอะไรช้า
2. อยากทำตามความคิดตนมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงเพราะฟังคนอื่น
3. โกธรได้ง่าย แต่หายยาก
4. ยอมทุ่มเทเงินทองให้กับสิ่งที่ชอบ
5. เจ้าระเบียบ ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับคนของตน
6. ไม่ชอบที่จะให้เพื่อนพ้อง พี่น้องชื่นชมใครไปกว่าตน  
ราศีเมถุน ( 21 พฤษภาคม - 20 มิถุนายน)

จุดแข็ง
1. มีความสดใสร่าเริง และมีอารมณ์ขันเสมอ
2. ช่างคิด ช่างสังเกต
3. ฉลาดคิดเร็วตัดสินใจเร็ว และไม่ชอบหยุดนิ่ง
4. ไหวพริบด! ี สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
5. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสามารถในการวางแผน
6. รักการเรียนรู้ สนุกที่จะหาประสบการณ์ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
7. สามารถให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา คำแนะนำแก่คนรอบข้างได้
8. เก็บความรู้สึกดี มักไม่แสดงความรู้สึกโกธรออกมา  
จุดอ่อน
1. ขาดความมุ่งมั่นและไม่อดทนไม่มีความหนักแน่น
2. ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตน
3. เป็นคนเบื่อง่าย ขาดความจริงจังทั้งที่เป็นคนมีความทะยาน
4. แม้จะเป็นคนคิดการณ์ไกล แต่ไม่ชอบที่จะทำ มักวางมือเสียง่ายๆ
5. กล้าคิด กล้าทำแต่จริงๆแล้วขาดความรอบครอบ
6. ไม่ตรงต่อเวลานัก ไม่ต้องการความรับผิดชอบสูง
7. ขาดพลังในการควบคุมตน    
ราศีกรกฎ ( 21 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม)

จุดแข็ง
1. เป็นคนมีจิตใจดี ไม่เคยคิดเบียดเบียนทำร้ายใคร
2. สนใจเรื่องแสวงหาความมั่นคงในชีวิตความสำเร็จและความก้าวหน้า
 3. รักบ้าน รักครอบครัว รักเพื่อน
4. มีความจำดี มีความรับผิดชอบสูง
5. ขยันขันแข็ง ไม่เหลวไหล
6. ยอมรับระบบระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง
7. ยืดหยัดตามลำพังได้ด้วยตัวของตัวเองหากต้องเผชิญกับปัญหา
8. มีความละเมียดละไม ใฝ่หาความสุนทรีในชีวิต  
จุดอ่อน
1. อ่อนไหวเกินไป เจ็บปวดง่าย เจ้าอารมณ์
2. ขาดเหตุผลเข้มงวดกับคนใกล้ตัวเกินไป
3. ช่างหวาดระแวงและวิตกกังวลเกินควร
4. บางครั้งก้าวร้าวเพราะยึดมั่นในความคิดของตนเกินไป
5. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ทั้งที่ไม่คิดจะทำร้ายใครเลย
6. ไม่มีความกล้าได้กล้าเสี่ยงเท่าใด
7. มักมองโลกในแง่ร้ายและตัดสินใจเรื่องราวในแง่ลบเสมอ  
ราศีสิงห์ ( 23 กรกฎาคม - 22 สิงหาคม)

จุดแข็ง
1. เป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ
2. ไม่ดึงตัวเองลงไปในความเครียด รู้จักสร้างความรื่นรมย์ให้ตนเองและคนรอบข้าง
3. เป็นคนที่มีระเบียบในการใช้ชีวิต
4. มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
5. มีความมั่นอกมั่นใจและเป็นตัวเองสูง
6. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าพูดกล้าทำ กล้าเสี่ยง
7. ไม่หวาดกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง
8. ไม่ยอมล้มเหลวหรือพ่ายแพ้  
จุดอ่อน

1. บางครั้งทระนงจนไม่ยอมขอโทษ ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด
2. ชอบให้ทุกคนยกย่อง เอาอกเอาใจ ต้องการการยอมรับมากไป
3. ให้ความสำคัญกับการเที่ยวเตร่มากกว่าการมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
4. การเลือกคบคมมากเกินไปจนดูเหมือนดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า
5. ชอบโอ้อวดและหน้าใหญ่ในบางครั้ง
6. วู่วาม! ใจร้อนไร้เหตุผล
7. มักเห็นแก่ความต้องการของตนเป็นใหญ่เสมอ
8. กล้าคิดกล้าตัดสินใจแต่ขาดความรอบครอบ  
ราศีกันย์ ( 23 สิงหาคม - 22 กันยายน)
จุดแข็ง

1. ซื่อสัตย์ภัคดี มีความตั้งใจจริงไม่เอาเปรียบใคร
2. มีความรับผิดชอบสูง ความตั้งใจสูง
3. ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักออมเงิน
4. เก่งกาจในการติดต่อสื่อสาร การคิด การวิเคราะห์และการเก็บรายละเอียด
5. สามารถปรับตัวได้ไม่เบื่อหน่ายมีความอดทนสูง
6. เก่งด้านการจัดการ มีมาตรฐานในชีวิต
7. มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน  
จุดอ่อน
1. ไม่เชื่อถือและไม่วางใจใครเหมือนกับที่คนอื่นวางใจตน
2. เข้มงวด เจ้าระเบียบ จุกจิกจู้จี้
3. มีความบากบั่นสูง! แต่บางครั้งก็ดันทุรังโดยไร้เหตุผล
4. ด้วยความสามารถในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้บ่อยครั้งช่างตำหนิติเตียนผู้คน
5. มักมีลับลมคมนัยเก็บความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงของตนไว้ไม่แสดงออกมา
6. มักหวังสิ่งตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
7. เป็นคนเอาใจยาก  
ราศีตุลย์ ( 23 กันยายน - 22 ตุลาคม)

จุดแข็ง
1. มีมาตรฐานในการใช้ชีวิตของตนเอง รู้จักวางเป้าหมายและวางแผนอยุ่เสมอ
2. ดูแลชีวิตตนเองให้มีความสุขเสมอ
3. มีวาทศิลป์ มีคารมคมคาย รู้จักการเจรจาต่อรองได้เยี่ยม
4. ไม่ทำตัวขวางโลก
5. มีความเป็นผู้นำ
6. อ่อนโยน แคร์ความรู้สึกของผู้อื่น
7. มนุษย์พันธ์ดีเยี่ยม ค่อนข้างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเอง  
จุดอ่อน

1. การตัดสินใจไม่เด็ดขาดเพราะมักเกิดการโลเล ไม่มั่นใจในตนเอง
2. ปรารถนาความเป็นหนึ่งมากจนเกินไป บางครั้งอาจผิดหวังและอิจฉาผู้อื่นได้
3. บางครั้งสุขุมเกินไปจนดูเหมือนเป็นคนเฉื่อยช้า
4. ยึดถือความถูกต้องเป็นใหญ่จนไม่ประนีประนอมให้เกิดความยืดหยุ่นบาง
5. มีความอ่อนไหวน้อยใจมากพอๆกับความยโส  
ราศีพิจิก ( 23 ตุลาคม - 21 พฤศจิกายน)

จุดแข็ง
1. เป็นคนมีระเบียบวินัยและวางมาตรฐานให้กับชีวิตของตนอย่างเคร่งครัด
2. ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในโลกส่วนตัวของตนเอง
3. มีความทรงจำเยี่ยม มีสมาธิดี มีความรับผิดชอบ
4. มีน้ำใจไมตรี ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ชอบการประจบ
5. เป็นคมมีไหวพริบ
6. รู้จักใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด
7. มีจุดยืนและเป้าหมายเด่นชัด  
จุดอ่อน

1. ค่อนข้างเข้มงวดกับตนเองและคนอื่นมากไป
2. บางครั้งดูหมิ่นผู้อื่นอยู่ในใจและยากที่จะไว้ใจใคร
3. โมโหร้าย หวาดระแวง ยากที่จะประนีประนอม
4. แม้จะไม่ทำร้ายใครก่อน
แต่ก็มักจะตอบโต้ด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงอย่างจริงจัง
5. สามารถที่จะลืมความอ่อนโยนกลายเป็นคนก้าวร้าวได้ถ้าไม่พอใจ  
ราศีธนู ( 22 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม)
จุดแข็ง
1. มีแนวคิดที่ชัดเจน มีหลักปรัชญาในการดูแลชีวิต
2. มีอารมณ์ขันเสมอ ไม่เครียดง่าย
3. ปรับตัวได้ดีมองการณ์ไกล
4. กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่เสมอ
5. เข้าใจและเห็นใจผู้อื่น
6. ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง  
จุดอ่อน

1. เก่งหลายอย่างแต่ไม่มุ่งมั่นซะอย่าง
2. มักเปรียบเทียบตนกับผู้อื่นจนท้อ
3. ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่เก่งเรื่องวางแผน
4. เก็บเงินไม่เก่ง
5. ทนไม่ได้หากถูกมองว่าไม่ชื้อ จะก้าวร้าวถ้าไม่ได้ดั่งใจ
6. บางครั้งใจแคบ ไม่รู้จักกาลเทศะ
7. ไว้ใจคนง่าย ชอบโต้คารม ชอบอวดความคิดตน
8. แม้ปัญญาดีแต่ขาดไหวพริบ
                              

                            http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1264656484&grpid=07&catid=no&sectionid=0225
--
     Weblink
seminar
http://seminarmon.blogspot.com
http://seminartue.blogspot.com
http://seminarwed.blogspot.com
http://seminarthu.blogspot.com
http://seminarfri.blogspot.com
http://seminarsat.blogspot.com
http://seminar1951.blogspot.com
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://seminardd.com
www.ipthailand.org
www.joetist.com

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

ใช้ลิ้นบังคับรถวีลแชร์ นักวิจัยมะกันคิดครั้งแรกในโลก


วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7001 ข่าวสดรายวัน


ใช้ลิ้นบังคับรถวีลแชร์ นักวิจัยมะกันคิดครั้งแรกในโลก





นัก วิจัยจากศูนย์เชป เพิร์ดในแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ทำความฝันของผู้ป่วยอัมพาตให้เป็นความจริงเพราะเคลื่อนที่รถเลื่อนได้ด้วย ลิ้น!

เมื่อสองปีก่อน นายครูส โบเกิ้ล วัย 18 ปี เล่นกระดานโต้คลื่นที่หาด ดีลเรย์ รัฐฟลอริดา และเกิดอุบัติเหตุ คลื่นซัดตกลงมา ศีรษะกระแทกพื้นทะเล ทำให้กระดูกสันหลัง ซี4 หักและอัมพาตตั้งแต่คอลงมา จึงไปรักษาตัวที่ศูนย์เชปเพิร์ด ศูนย์ฟื้นฟูที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝั่งตะวันออก



ที่ ศูนย์แห่งนี้ เมย์แซม โกวานลู อาสาเป็นหัวหน้าทีมวิจัยประดิษฐ์ "เก้าอี้รถเข็นที่ควบคุมด้วยลิ้น" ให้นายโบเกิ้ลทดลองใช้เป็นตัวแรกในโลก โดยอาศัยแนวคิดว่า ลิ้นไม่เหมือนอวัยวะส่วนอื่น เพราะ เชื่อมกับสมองโดยตรงผ่านเส้นประสาทไขสันหลัง แม้แต่ผู้ป่วยวิกฤตเส้นประสาทไขสันหลังอักเสบก็ยังควบ คุมลิ้นได้เหมือนกับคนปกติ

โกวานลูจึงให้โบเกิ้ลฝึกการใช้ คอมพิวเตอร์และเรียนรู้การใช้ลิ้นเพื่อควบคุมคำสั่งต่างๆ ที่ใช้ขับเคลื่อนเก้าอี้รถเข็นโดยมีปุ่มแม่เหล็กกลมๆ ขนาดเท่ากับเมล็ดข้าวติดอยู่ที่ลิ้นทำหน้าที่เป็นเสมือนแผ่นรองเม้าส์ ส่วนลิ้นเป็นเหมือนเคอร์เซอร์ เมื่อขยับลิ้น สัญญาณไร้สายก็จะ ส่งไปยังเซ็นเซอร์ทั้ง 6 ในเครื่องหูฟังแบบสวมศีรษะ ผู้ใช้อุปกรณ์นี้ชอบมาก เพราะบังคับรถเข็นให้ เคลื่อนที่ได้ง่าย ให้ไปข้างหน้า ถอยหลังและซ้าย-ขวาได้ด้วยลิ้น

เทคโนโลยีนี้พัฒนา เพื่อให้ผู้ป่วยที่ทุพพลภาพขั้นรุนแรงให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตกหรือโรคปลายประสาทอักเสบ ซึ่งทำให้เป็นอัมพาตได้


หน้า 29
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNVEk1TURFMU13PT0=&sectionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBeE1DMHdNUzB5T1E9PQ==

--
โปรดอ่านBlog
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=920
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=porpayia&month=12-2009&date=07&group=10&gblog=69
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=auntymod
http://www.bloggang.com/index.php?category=20
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=praewkwun&month=10-12-2009&group=27&gblog=15 นาฬิกา+ปฎิทิน

ผู้ติดตาม