นับถอยหลังถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) ซึ่งเป็นวันชาติจีน (National Day of China) ประเทศจีนจะดึงดูดสายตาชาวโลกอีกครั้ง ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยงานแสดงรื่นเริงทางวัฒนธรรม การสวนสนามของกองทับประชาชนจีน และการแสดงแสนยานุภาพของอาวุธล้ำสมัย ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน การสวนสนามของกองทัพจีน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำกันทุกปี ในวันชาติจีน 1 ตุลาคม เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของจีน สายสัมพันธ์ไทย-จีน รอยแตกลาย บน “เครื่องสังคโลก” เป็นวัตถุบันทึก ถึงสายสัมพันธ์ทางการค้าและวัฒนธรรมมายาวนาน นับแต่อาณาจักรสุโขทัย จนถึงอาณาจักรอยุธยา เมื่อพระมหากษัตริย์ไทยได้ส่งคณะทูตนำเครื่อง “บรรณาการ” หรือ “จิ้มก้อง” (Tribute) ไปถวายจักรพรรดิในราชวงศ์ต่างๆของอาณาจักรจีนโบราณ และมีการแลกเปลี่ยนสัมพันธไมตรี เดินทางค้าขายติดต่อกันสืบมา ชาวจีนได้ถ่ายทอดศิลปะการทำเครื่องปั้นดินเผา “เครื่องสังคโลก” สินค้าส่งออกที่สำคัญสมัยสุโขทัย ย้อนอดีตชาวจีนย่านมังกร ภาพจาก ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช วัดไตรมิตรวิทยาราม ในสมัยกรุงธนบุรี ต่อเนื่องถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชกาลที่ 3 ทรงแต่งเรือสำเภาหลวงนำสินค้าไปเปิดการค้ากับจีน ส่งผลให้ “การค้าสำเภา” (Junk Trade) มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ทำให้สยามมีเงินไว้ใช้ในยามสงคราม อีกทั้งชาวจีนก็ได้อพยพหลบหนีความอด อยากแร้นแค้น และความระส่ำระสายจากสงครามกลางเมืองภายในประเทศ เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ตั้งรกรากถิ่นฐาน ประกอบอาชีพอยู่ในสยามเป็นจำนวนมาก จนเกิดชุมชนชาวจีนขึ้นมากมายทั่วประเทศไทย และได้ผสมผสานวัฒนธรรมกลายเป็น “คนไทยเชื้อสายจีน” มาจนถึงปัจจุบัน พระเจดีย์รูปเรือสำเภา วัดยานนาวา รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น เป็นบันทึกถึงยุคทองของการค้าสำเภา ระหว่างไทยกับจีน ย้อนอดีตชาวจีนย่านมังกร ภาพจาก ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช วัดไตรมิตรวิทยาราม ทางด้านการค้ากับประเทศจีน ภาคเอกชนนำโดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนรุ่นบุกเบิก ที่อพยพเข้ามาประกอบธุรกิจการค้าอยู่ในประเทศสยามจนประสบความสำเร็จ ได้รวมตัวกันก่อตั้ง “หอการค้าไทย-จีน” ขึ้น ในปี พ.ศ. 2453 (ค.ศ.1910) ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งตรงกับปลายสมัยราชวงศ์ชิง ของจีน ทั้ง นี้เพื่อให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล สร้างความรักสามัคคี ในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเลด้วยกัน และขยาย(อำนาจ)ธุรกิจการค้าของไทยไปสู่ทั่วโลก โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสถาบันพระมหากษัตริย์ และการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยมาทุกยุคสมัย จนหอการค้าไทย-จีนในปัจจุบัน นับเป็นหอการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นหัวใจสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ภาพถ่ายประธานหอการค้าไทย-จีน จากอดีต ถึงคนปัจจุบันคือ นายสุธี มีนชัยนันท์ ตึกเก่าสะท้อนเวลาตึกสูงใหญ่ บนถนนสาทร หอการค้าไทย-จีน จะครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2553 ภายหลังราชวงศ์จีนล่มสลาย ด้วยสงครามกลางเมือง และประเทศไทยเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง สายสัมพันธ์ทางการทูตในระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้หยุดชะงักลงไป ด้วยเหตุผลทางการเมือง และอิทธิพลของจักรวรรดินิยมนักล่าอาณานิคมตะวันตก แต่สายสัมพันธ์ทางการค้าและวัฒนธรรมของคนไทย คนจีน ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ราชอาณาจักรไทย และ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 โดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เดินทางไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับ โจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งนับเป็นปีที่ 34 ในปี 2552 นี้ ประวัติศาสตร์จีนใหม่ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) สงครามกลางเมือง (Chinese Civil War) ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีน กับพรรคก๊กหมินตั๋ง ก็สิ้นสุดตาม โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนพรรคก๊กหมินตั๋ง ได้เข้าปกครองหมู่เกาะไต้หวัน ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) เหมาเจ๋อตุง ได้ประกาศสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) ขึ้น ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน และปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ด้วยความเข้มงวดกวดขันเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งชีวิตประจำวันของประชาชน หลัง จากเหมาเจ๋อตุง ถึงแก่อสัญกรรม เติ้งเสี่ยวผิง ก็ได้ขึ้นสู่อำนาจต่อมา ภายหลังรัฐบาลจีนจึงได้ค่อยๆ ลดการควบคุมชีวิตส่วนตัวของประชาชน และพยายามที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นไปตามกลไกของตลาดแบบสากล ครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดช่วงระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ผู้นำจีนยุคใหม่ได้มีนโยบายในการพัฒนาประเทศทุกๆด้าน ทั้งทางด้านการเมือง สังคม วัฒนธรรม การเกษตร อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งการเปิดประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจการค้าโลก ผลแห่งการเปลี่ยนแปลง พัฒนา ทั้งจากรัฐบาลกลาง ภาคธุรกิจ และประชาชน จนทำให้ประเทศจีนประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม และวัฒนธรรม จนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ว่าประเทศจีนเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งแห่งเอเชีย และนับเป็นอันดับสองของโลก เริ่มจากต้นปี มีข่าวของประเทศจีนได้เตรียมความพร้อม และมีการจัดกิจกรรมต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง ในวาระครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนาฯ อาทิ การสวนสนามทางทะเล เพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองทับเรือจีน และเรือรบจากนานาชาติที่ส่งเข้าร่วม การสร้างภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ 60 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดย จางอี้โหม่ว ผู้กำกับชื่อดัง เป็นต้น การแสดงแสนยานุภาพทางทะเล ในงานครบรอบ 60 ปี วันสถาปนากองทัพเรือจีน (23 เม.ย. 52) ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ 60 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีน โดย จางอี้โหม่ว ผู้กำชื่อดัง จากผู้ที่มีความคิดไม่ลงรอยกับรัฐบาล มาเป็นศิลปินขวัญใจรัฐบาลจีน ข่าวการซ้อมแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ก่อนถึงวันสวนสนามจริง 1 ต.ค. 60 ปี แห่งการสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน ประชาชนชาวไทย และ ชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมเฉลิมฉลองด้วยไมตรี ในนามประเทศไทย คณะกรรมการ หอการค้าไทย-จีน ประชุมเตรียมงาน หอการค้าไทย-จีน , สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ร่วม กันจัดงานเฉลิมฉลอง 60 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน พ.ศ. 2552 นี้ ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพค เมืองทองธานี โดยในคืนวันที่ 19 กันยายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นงาน เลี้ยง (Gala Dinner) โดยแขกรับเชิญจากภาครัฐบาลไทย รัฐบาลจีน ทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย นักธุรกิจชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งชาวไทย-ไทยเชื้อสายจีน (เป็นภาพตัวอย่าง การแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัยของจีน) ส่วนคืนวันที่ 20 กันยายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นการแสดง (Concert) ไทย-จีนสัมพันธ์ การแสดงวัฒนธรรมจีนร่วมสมัย โดยคณะนักแสดงและนักร้องระดับ Superstar ของจีน ซึ่งส่งตรงมาจากกรุงปักกิ่ง บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ แสงสีเสียงตระการตา และเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ! (*ต้องมีบัตรเชิญล่วงหน้า) (เป็นภาพตัวอย่าง การแสดงวัฒนธรรมร่วมสมัยของจีน) ทั้งนี้เพื่อรวมคนไทยเชื้อสายจีน ที่มาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ได้ร่วมกันแสดงออกถึงจิตสำนึก ความรัก ความผูกพัน อันมีต่อประเทศมาตุภูมิจีน แผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษ และเพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลอง ร่วมส่งคำอวยพรด้วยไมตรีจิตยินดี ต่อมิตรประชาชนชาวจีน อัน เป็นการแสดงออกถึงสัมพันธภาพอันดีที่มีมายาวนาน และสร้างสานสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม เศรษฐกิจการค้า ระหว่างประเทศไทย และประเทศจีนให้เจริญยั่งยืนสืบไป... (อะหนึ่ง รายงานจาก หอการค้าไทย-จีน) อนึ่ง... สำหรับชาวโอเค เนชั่น ที่สนใจชมคอนเสิร์ต ในคืนวันที่ 20 กันยายน 2552 (เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป) ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพค เมืองทองธานี อะหนึ่ง มีบัตรเข้าชมงานมอบให้ โปรดแจ้งไว้ในคอมเม้นท์ นะครับ (*ได้โควต้ามาจำนวนจำกัดเพียง 15 ใบ) .............................................................................. *ขอบคุณ : เจ้าของบทความก่อนหน้าที่ผู้เขียนอ้างอิงมาเรียบเรียง / เจ้าของภาพประกอบจากเว็บไทย และจีน Description : เพลงชาติจีน Chinese National Anthem (อนุเคราะห์คลิปโดย BG เฟิงสุ่ย)
|